First-party data

วัดผลกิจกรรมในแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วย User-ID

ส่ง User-ID ที่ธุรกิจสร้างขึ้นไปยังพร็อพเพอร์ตี้ Analytics

ฟีเจอร์ User-ID ช่วยให้คุณเชื่อมโยงตัวระบุของคุณเองกับผู้ใช้แต่ละราย ทำให้สามารถเชื่อมต่อพฤติกรรมของผู้ใช้ในเซสชันต่างๆ และในอุปกรณ์และแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันได้ Analytics จะตีความ User-ID ที่ไม่ซ้ำกันแต่ละรายการเป็นผู้ใช้แยกต่างหาก คุณจึงได้รับจํานวนผู้ใช้ที่ถูกต้องมากขึ้น ทั้งยังบอกเล่าเรื่องราวที่รอบด้านมากขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้ใช้กับธุรกิจของคุณ

เมื่อคุณรวบรวม User-ID และลิงก์ Analytics กับ BigQuery แล้ว ระบบจะส่งออกข้อมูลดังกล่าวไปยัง BigQuery โดยไม่คํานึงถึงสถานะความยินยอมของผู้ใช้

ก่อนเริ่มต้น

หากต้องการส่ง User-ID ไปยัง Analytics คุณจะต้องสร้างรหัสที่ไม่ซ้ำกันสําหรับผู้ใช้แต่ละรายด้วยตัวเอง แล้วมอบหมายรหัสให้ผู้ใช้ รวมทั้งมอบหมายรหัสเดิมให้ผู้ใช้ที่กลับมาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งโดยปกติจะดำเนินการในระหว่างการเข้าสู่ระบบ เช่น เมื่อผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ คุณจะใช้อีเมลของผู้ใช้เพื่อสร้างรหัสที่ไม่ซ้ำกันซึ่งใช้อ้างอิงในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้ รหัสผู้ใช้แต่ละรายการต้องยาวไม่เกิน 256 อักขระ

หมายเหตุ: คุณมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบว่าการใช้ User-ID เป็นไปตามข้อกําหนดในการให้บริการของ Google Analytics ซึ่งรวมถึงการหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้โดยไม่ได้รับอนุญาต และการแจ้งอย่างเหมาะสมเกี่ยวกับการใช้ตัวระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัว User-ID ของคุณต้องไม่มีข้อมูลที่บุคคลที่สามใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้ได้

เกี่ยวกับ User-ID

โปรดป้อน User-ID จริงเพื่อให้การรายงานมีความแม่นยำ การตั้งค่า User-ID ให้ว่างเปล่าหรือใช้ User-ID จำลองซ้ำๆ อาจทําให้ข้อมูลไม่แม่นยำ (รวมถึงมีการสูญเสียข้อมูลอย่างถาวร) และขัดขวางความสามารถในการวิเคราะห์กิจกรรมของผู้ใช้

ตรวจสอบว่าผู้ใช้แต่ละรายใน Google Analytics มี User-ID ที่ไม่ซ้ำกัน การกำหนดรหัสเดียวกันให้กับผู้ใช้หลายคนจะทำให้ข้อมูลบิดเบือน ทำให้แยกแยะกิจกรรมจริงของผู้ใช้แต่ละคนได้ยาก

ตัวอย่าง

คุณมีผู้ใช้ 2 คน คือ เจตน์และมาริสา คุณกําหนด User-ID เดียวกัน (UserID123) ให้กับทั้งสองคนโดยไม่ตั้งใจ

กิจกรรมของผู้ใช้มีดังนี้

  • เจตน์เข้าสู่ระบบและเรียกดูเว็บไซต์ของคุณบนแล็ปท็อป เขาดูผลิตภัณฑ์ ก และเพิ่มลงในรถเข็น
  • ต่อมา มาริสาเข้าสู่ระบบในโทรศัพท์โดยใช้ User-ID เดียวกัน (UserID123) เธอดูผลิตภัณฑ์ ข และทำการซื้อ

ใน Google Analytics คุณจะเห็นผู้ใช้ 1 รายที่มี UserID123 ซึ่งดูผลิตภัณฑ์ ก และ ข แต่ทำการซื้อเพียง 1 ครั้ง จึงอาจตีความข้อมูลการท่องเว็บที่รวมกันว่าเป็นผู้ใช้รายเดียวที่มีความสนใจหลากหลาย แต่จริงๆ แล้วเป็นผู้ใช้ 2 ราย


ส่ง User-ID

ดูวิธีการส่ง User-ID ได้ในส่วนส่ง User-ID


ยืนยันข้อมูลระบุตัวตนในการรายงาน

ตรวจสอบว่าพร็อพเพอร์ตี้ใช้ข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานที่มีตัวเลือก User-ID โดยทำดังนี้

  1. ในส่วนผู้ดูแลระบบ ให้เลือกข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานใต้การแสดงข้อมูล
    หมายเหตุ: ลิงก์ก่อนหน้าจะเปิดพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ล่าสุดที่คุณเข้าถึง คุณต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เพื่อเปิดพร็อพเพอร์ตี้ คุณเปลี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ได้โดยใช้ตัวเลือกพร็อพเพอร์ตี้ คุณต้องเป็นผู้แก้ไขหรืออยู่ในระดับสูงกว่านั้น ที่ระดับพร็อพเพอร์ตี้ถึง เปลี่ยนข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานที่มีตัวเลือก User-ID
  2. เลือกสิ่งที่ต้องการทำจากตัวเลือกต่อไปนี้
    • รวม: ประเมินรหัสผู้ใช้ รหัสอุปกรณ์ และข้อมูลโดยประมาณ
    • สังเกตการณ์: ประเมิน User-ID และรหัสอุปกรณ์
  3. เลือกบันทึก

คุณใช้ User-ID ทำอะไรได้บ้าง

เปรียบเทียบผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้และผู้ใช้ที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้

หากต้องการเปรียบเทียบพฤติกรรมของผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้กับผู้ใช้ที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ ให้สร้างการเปรียบเทียบที่ใช้มิติข้อมูลลงชื่อเข้าใช้ด้วยรหัสผู้ใช้ แล้วเลือกการทำงานของคีย์เวิร์ดประเภทใดประเภทหนึ่งด้านล่าง

  • ตรงทุกประการกับ
  • มี
  • ไม่ได้ตรงทุกประการ
  • ไม่มี

รายงานที่แสดงผู้ใช้ ผู้ใช้ใหม่ เวลาในการมีส่วนร่วม และรายได้สําหรับผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้และผู้ใช้ที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้

การสำรวจผู้ใช้

การสำรวจผู้ใช้แสดงผู้ใช้ที่ประกอบกันขึ้นเป็นกลุ่มที่มีอยู่ หรือที่ประกอบกันขึ้นเป็นกลุ่มชั่วคราวที่เกิดจากการใช้เทคนิคการสำรวจอื่นๆ คุณสามารถเจาะลึกลงไปในรายการเพื่อดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้แต่ละราย รวมถึงวิธีและเวลาที่ได้ผู้ใช้รายนั้นๆ เมตริกสรุปข้อมูลของผู้ใช้ และลำดับเวลาของกิจกรรมของผู้ใช้ในเว็บไซต์หรือแอปได้

สร้างกลุ่มเป้าหมายรีมาร์เก็ตติ้งตามข้อมูล User-ID

คุณสร้างกลุ่มเป้าหมายรีมาร์เก็ตติ้งตาม User-ID ได้ หากคุณลิงก์บัญชี Google Analytics กับบัญชี Ads ไว้ กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้จะมีอยู่ในคลังที่ใช้ร่วมกันใน Google Ads

  • หากคุณใช้ User-ID อยู่ Analytics จะรวมเฉพาะตัวระบุผู้ใช้และตัวระบุอุปกรณ์สําหรับอุปกรณ์ล่าสุดที่เชื่อมโยงกับผู้ใช้แต่ละรายที่เข้าสู่ระบบ
  • หากคุณไม่ได้ใช้ User-ID อยู่ Analytics จะรวมตัวระบุผู้ใช้และอุปกรณ์ทั้งหมดไว้ในข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ส่งออกไปยัง Ads

วิธีที่ Analytics จัดการเซสชันที่มีการรวบรวม User-ID ที่ไม่สมบูรณ์

บางครั้งผู้ใช้จะเรียกเหตุการณ์ให้แสดงในเว็บไซต์หรือแอปก่อนลงชื่อเข้าใช้หรือหลังออกจากระบบ Analytics จะจัดการสถานการณ์ดังกล่าวโดยทำดังนี้

  • ก่อนลงชื่อเข้าใช้: หากผู้ใช้เรียกเหตุการณ์ให้แสดงก่อนที่จะมีการตั้งค่า User-ID ทาง Analytics จะเชื่อมโยงเหตุการณ์เริ่มต้นเหล่านั้นกับ User-ID นั้น
  • หลังจากออกจากระบบ: หากผู้ใช้ออกจากระบบและเหตุการณ์ที่เริ่มต้นทันทีหลังจากออกจากระบบไม่มี User-ID ทาง Analytics จะหยุดเชื่อมโยงเหตุการณ์ใดๆ หลังจากนั้นกับ User-ID ดังกล่าว

ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้เริ่มต้นเซสชันที่ไม่มี User-ID ที่เชื่อมโยง และเรียกเหตุการณ์ 1 และ 2 ให้แสดง ไม่มี User-ID ที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์เหล่านั้น จากนั้นผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้และเรียกเหตุการณ์ 3 ให้แสดง ตอนนี้เหตุการณ์ 1, 2 และ 3 ได้เชื่อมโยงกับ User-ID ของผู้ใช้รายนั้นแล้ว สุดท้าย ผู้ใช้ออกจากระบบแล้วเรียกเหตุการณ์ 4 ให้แสดง ไม่มี User-ID ที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ 4 ทั้งนี้ เหตุการณ์ 1, 2 และ 3 จะยังคงเชื่อมโยงกับผู้ใช้รายนั้น

ในสถานการณ์ที่พบได้ไม่บ่อย หากผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้อีกครั้งภายในเซสชันเดียวกันและมีการระบุ User-ID เดียวกัน ระบบจะเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่อๆ ไปกับ User-ID นั้นอีกครั้ง ในตัวอย่างนี้ หากเหตุการณ์ 5 เริ่มต้นขึ้นหลังออกจากระบบและมี User-ID เดียวกัน เหตุการณ์ 1, 2, 3 และ 5 ก็จะเชื่อมโยงกับผู้ใช้รายเดียวกัน

หมายเหตุ: หากคุณไม่ได้ตั้งค่า User-ID ที่ไม่ซ้ำ ระบบจะตั้งค่า JavaScript ต่อไปนี้เป็น User-ID
  • undefined: ระบบจะไม่ส่ง User-ID ใน Hit เนื่องจากจะไม่บันทึก Hit นั้นเป็น user_id กรณีนี้จะเกิดขึ้นด้วยหากคุณไม่เคยตั้งค่า User-ID เลย
  • Null: ระบบจะส่งค่า User-ID ที่ไม่ได้ตั้งค่าใน Hit โดยจะถือว่าคุณเป็นผู้ใช้ที่ "ออกจากระบบแล้ว" ซึ่งไม่มี user_id คงที่ นอกจากนี้ หลังจากที่ผู้ใช้ออกจากระบบแล้ว ค่านี้จะเป็นค่าเดียวที่ยอมรับได้
  • สตริงว่าง (""): ระบบจะส่งค่า User-ID ที่ว่างเปล่าใน Hit และจะถือว่าคุณเป็นผู้ใช้ที่ "ออกจากระบบ" เมื่อไม่มี user_id คงที่ ขอแนะนําให้ใช้ค่า Null แทนสตริงว่างหากคุณต้องการละเว้น User-ID เนื่องจากสตริงว่างอาจทําให้เกิดปัญหาในการเขียนโค้ด

ระบบจะตีความค่าอื่นๆ ทั้งหมดเป็น User-ID ที่ไม่ซ้ำและจะส่งค่าตามนั้น ซึ่งรวมถึงสตริง "undefined" และ "null" ที่แตกต่างจากค่า JavaScript ตามที่อธิบายข้างต้น


ขีดจำกัด

  • ฟีเจอร์ User-ID สร้างขึ้นมาสำหรับการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี Google Analytics การใช้งานทั้งหมดต้องสอดคล้องกับนโยบาย Analytics SDK/ฟีเจอร์ User-ID
  • รหัสผู้ใช้ที่คุณส่งให้กับ Google Analytics ต้องยาวไม่เกิน 256 อักขระ
  • ข้อมูลในบัญชี Analytics ที่ระบบรวบรวมและบันทึกไว้ก่อนการติดตั้งใช้งานจะไม่ถูกนำมาประมวลผลใหม่และเชื่อมโยงกับ User-ID
  • ข้อมูล User-ID ที่รวบรวมในพร็อพเพอร์ตี้หนึ่งจะนําไปแชร์หรือผสมผสานกับข้อมูลในพร็อพเพอร์ตี้อื่นไม่ได้
  • ฟีเจอร์ User-ID ออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ตรวจสอบว่าได้ติดตั้งใช้งานอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้ถึงขีดจํากัดเซสชันหรือเหตุการณ์ต่อผู้ใช้ต่อวัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขีดจํากัดการรวบรวมเหตุการณ์

การช่วยเตือนบางรายการเกี่ยวกับการติดตั้งใช้งานที่เหมาะสมมีดังนี้

  • ผู้ใช้แต่ละรายของพร็อพเพอร์ตี้ได้รับ user_ID แบบถาวรที่ไม่ซ้ำกัน
  • ตรวจสอบว่าคุณไม่ได้ตั้งค่า User-ID เป็นค่าจำลองหรือค่าตัวยึดตำแหน่งหากหรือหลังจากที่ผู้ใช้ออกจากระบบ ควรตั้งค่าเป็น Null เพื่อล้างค่าเดิม ไม่ใช่สตริงว่างหรือค่าอื่นๆ
  • ตรวจสอบว่าโค้ดไม่ได้เริ่มเซสชันผู้ใช้ใหม่โดยไม่ตั้งใจทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
false
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
7095323953755315783
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
false
true
true
true
true
true
69256
false
false
false
false